การประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.ฎ. ขยายเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ 2562

3 กันยายน 2025

การประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.ฎ. ขยายเวลาใช้บังคับพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ 2562

สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ร่วมมือกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ จัด”การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาใช้บังคับพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา” ระหว่างวันที่ 28 – 29 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดเชียงใหม่

การประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาใช้บังคับพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 พ.ศ. …. โดยมีผู้แทนจากคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ (นายคงกระพัน เวฬุสาโรจน์) ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้แทนกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนปกครอง และผู้แทนนักเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้

วันที่ 28 สิงหาคม 2568

ดำเนินกิจกรรม ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 60 จังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายพิทักษ์ โสตถยาคม ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสื่อและการเรียนรู้ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการศึกษาพิเศษและผู้ด้อยโอกาส ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุมและได้เน้นย้ำถึงหัวใจของการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่มีอิสระในการคิดค้น แก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษาให้หลุดจากกรอบการศึกษารูปแบบเดิมในระยะเวลาเกือบ 7 ปีของพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 โดยทาง สบน. จะนำความคิดเห็นครั้งนี้ มาจัดทำเป็นข้อเสนอ มุมมอง เพื่อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 โดยมีผู้แทนจากคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษานำร่อง ศึกษานิเทศก์ และครูมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีประเด็นสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นดังนี้

  • ความสำเร็จและจุดที่ควรพัฒนาของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
  • เห็นด้วยหรือไม่ว่า สมควรให้มีการขยายระยะเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562
  • หากมีการขยายระยะเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เห็นสมควรให้ขยายเวลาใช้บังคับออกไปอีกเจ็ดปี (ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2569 ถึง วันที่ 30 เม.ย. 2576)
  • แนวทางการเตรียมความพร้อมในการสิ้นสุดการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและการกำหนดหลักเกณฑ์คุ้มครองสิทธินักเรียนและครูและบุคลาการทางการศึกษา ตามมาตรา 51
วันที่ 29 สิงหาคม 2568

ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง ณ โรงเรียนสันป่าตอง (สุวรรณราษฎร์วิทยาคาร) และโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในระหว่างการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยได้พูดถึงการบริหารจัดการสถานศึกษา สิ่งที่ประทับใจ ความสำเร็จ ปัญหา และสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นต่อไปหากได้รับการต่อพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต่อไปในอนาคต

 

ภาพรวม

ในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้ง 2 วัน ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำข้อมูลเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ต่อไป โดยภาพรวมจากการเก็บข้อมูลพบว่าทุกหน่วยงานเห็นด้วยกับการขยายเวลาใช้บังคับ พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ไปอีก โดยมีเหตุผลหลักในประเด็นดังนี้ 

  • การเข้าถึงโอกาส : โอกาสในการเข้าถึง สื่อและแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลายและมีคุณภาพ
  • ความยืดหยุ่น : การบริหารจัดการที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัวมากขึ้น
  • ความร่วมมือ : จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นต่อการพัฒนาการศึกษา
  • ความอิสระ : สถานศึกษามีอิสระในการจัดการศึกษามากยิ่งขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง และเกิดการพัฒนาครูและผู้เรียนมีความเป็นอิสระมากขึ้น ทำให้สามารถปรับการเรียนการสอนให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนานวัตกรรมการศึกษา การใช้สื่อที่เหมาะสมกับบริบทโรงเรียน
  • การสิ้นสุดการเป็นสถานศึกษานำร่อง ควรเปิดโอกาสให้สถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษามีทางเลือกในการจะดำเนินการต่อไปหรือสิ้นสุดการเป็นสถานศึกษานำร่อง

 

การเชื่อมโยงและบูรณาการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของหน่วยงาน“บทสัมภาษณ์พิเศษ: สร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา”