โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา สถานศึกษาขนาดกลาง เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านท่าขนุน ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโรงเรียนสหศึกษา มีผู้เรียนจำนวนประมาณ 853 คน ชุมชนโดยรอบมีทั้งวัด เทศบาล ผู้คนในชุมชนมีหลากหลายเชื้อสาย ทั้งชาวไทย มอญ พม่า กะเหรี่ยง ม้ง เย้า ผู้เรียนที่เป็นผู้เรียนชนเผ่ามีประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ มีข้าราชการครูจำนวน 45 คน ครูอัตราจ้างจำนวน 3 คน ผู้บริหารโรงเรียน คือ นายยงยุทธ สงพะโยม
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/image-21-1024x359.png)
เป้าหมายหลักที่โรงเรียนแห่งนี้เข้าร่วมเป็นโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา คือ การเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้เรียน มิใช่เป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงโรงเรียน โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ผู้เรียนได้เรียนรู้อะไร และสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเรียนรู้หรือจบการศึกษา เป้าหมายนี้สำเร็จได้จากการพัฒนาหลักสูตรได้เอง เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น และความต้องการการเรียนรู้ของผู้เรียน การดำเนินงานหลังจากเข้าร่วมเป็นโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแล้ว สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
1. การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ผอ.ยงยุทธ สงพะโยม มีความเห็นว่า พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้ “โอกาส” โรงเรียนพัฒนาหลักสูตรได้เอง ประกอบกับโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามีบริบทพิเศษ เป็นโรงเรียนชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วยผู้คนหลากหลายชนเผ่าที่มีความแตกต่าง ด้านภาษา วิถีชีวิต วัฒนธรรม ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และมีเขื่อนวชิราลงกรณ ที่เปรียบเสมือนทะเลสาบขนาดใหญ่
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/c1f69827febffb26e5b666e8d3aa65a10_54428845_200605_0004.jpg)
และจากสภาพพื้นที่พิเศษดังกล่าวนี้ทำให้ อำเภอทองทองผาภูมิ ประกอบไปด้วยหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก เช่น การไฟฟ้าผลิต ศาลจังหวัดทองผาภูมิ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า อุทยานแห่งชาติ วัดท่าขนุน โบสถ์ มัสยิด ฯลฯ จึงเป็นที่มาของแนวคิดการผสานความร่วมมือช่วยเหลือกันส่งเสริมการจัดการศึกษาของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา หรือนวัตกรรมที่โรงเรียนนำมาใช้ในการจัดการศึกษาที่เกิดจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม คือ บวร (บ้านรวมถึงเอกชน วัดและหน่วยงานหรือองค์กรทางศาสนา โรงเรียนและหน่วยงานราชการทั้งหลาย) ซึ่งได้ใช้แนวคิดนี้มา 3 ปีแล้ว แต่บวร ในที่นี้เป็นบวรคูณ 2 โดยบวรแรกคือ บ้าน วัดโรงเรียน บวรที่ 2 คือ บริบทวิชาการและการเรียนรู้ โดยบ้าน วัด ต้องส่งเสริมสนับสนุนโรงเรียนในด้านวิชาการและการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันโรงเรียนก็ดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยตอบสนองบริบทของบ้าน วัด และโรงเรียนด้วย จากแนวคิดนี้ จึงเกิดภาคีเครือข่ายความร่วมมือของหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน เช่น หน่วยงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่รับผิดชอบเขื่อนวชิราลงกรณซึ่งมีบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถด้านวิศวะไฟฟ้าและวิชาฟิสิกส์ เมื่อเลิกงาน บุคลากรเหล่านี้จะมาช่วยสอนเสริมให้ผู้เรียนในคาบสุดท้าย นอกจากนั้น โรงเรียนยังมีแพทย์และเภสัชกรจากโรงพยาบาลทองผาภูมิมาช่วยสอนวิชาเคมีและชีววิทยา อีกทั้งยังมีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงมาช่วยกันสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
โรงเรียนทองผาภูมิวิทยากำลังจะพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะในภาคเรียนนี้ มีแผนในการอบรมและวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ แม้มิใช่จัดตามหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ แต่ก็แฝงไปด้วยการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนในการจัดการเรียนการสอนแบบ project-based Learning และเนื่องจากผู้เรียนโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้เรียนชนเผ่า อยู่ในพื้นที่ห่างไกล การปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนจึงต้องค่อย ๆ ดำเนินการปูพื้นฐาน ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอน เป้าหมายสุดท้ายต้องการให้ผู้เรียนค้นพบตัวเอง หรือได้เรียนในสิ่งที่ต้องการโดยในอนาคตอาจใช้โอกาสการเป็นโรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเปิดสอนเป็นตลาดวิชาที่มีการเรียนการสอนแบบ Block Course
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/c1f69827febffb26e5b666e8d3aa65a10_54428845_200605_0013-1024x682.jpg)
ผลจากการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ Project-based Learning ทำให้ลดภาระงานของผู้เรียนลงได้ เนื่องจากเป็นการบูรณาการการเรียนรู้หลายวิชาเข้าด้วยกัน มีห้องเรียน STEAM ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีโรงเรียนบางแห่งใช้บ้างแล้ว เป็นแนวคิดที่เกิดจากการปรับใช้แนวคิด STEM Education (STEM : Science Technology Engineering and Mathematics) โดยเพิ่ม A คือ ART หรือศิลปะ เข้าไป เพราะต้องการให้ห้องเรียนวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสุนทรียภาพ มิให้ผู้เรียนเกิดความเครียดในการเรียนจนเกินไป อีกทั้ง ศิลปะจะช่วยเรื่องการออกแบบในศาสตร์ Engineering ได้ด้วย
การจัดการศึกษาของโรงเรียน ให้ผู้เรียนได้เรียนตามศักยภาพทั้งกลุ่มเก่ง ปานกลาง และกลุ่มอ่อน นอกจากนั้น ยังมีหลักสูตรทวิศึกษาสำหรับผู้เรียนที่สนใจสายอาชีพ และมีหลักสูตรอาชีพระยะสั้นสำหรับผู้เรียนที่มีความเสี่ยงที่จะออกกลางคัน เป็นหลักสูตรที่สามารถศึกษาจบได้ภายใน 1 ภาคเรียน ทำให้ผู้เรียนมีวิชาชีพติดตัว จะเห็นได้ว่า หลักสูตรของโรงเรียนมีความเหมาะสมกับผู้เรียนทั้ง 3 กลุ่ม คือ ผู้เรียนกลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน ไม่เน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
2. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
2.1 ด้านผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนดีขึ้น วัดได้จากผลการทดสอบ O-NET โดยภาพรวมของโรงเรียนสามารถเลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับกลางของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ ส่วนผลที่ชัดเจนที่สุด คือ สามารถลดการออกกลางคันของผู้เรียนลงได้ เนื่องจากผู้เรียนได้เรียนในสิ่งที่สนใจจากการจัดการศึกษาแบบทวิศึกษา ผู้เรียนมีระเบียบวินัย ได้เรียนรู้ตามศักยภาพ ตามความสนใจ
2.2 ด้านครู ครูมีความกระตือรือร้นมากขึ้น มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ยิ่งได้เห็นความสำเร็จของผู้เรียน โดยเฉพาะอย่ายิ่ง ความสำเร็จจากการมีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นคนแรกของโรงเรียน ทำให้ครูมั่นใจว่า กระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนหลายหน่วยงานและจากการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้น ดำเนินการมาถูกทางแล้ว จึงมุ่งมั่นในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น โดยเน้นรูปแบบ Active Learning และที่สำคัญที่สุดคือความร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้โรงเรียนไม่ประสบปัญหาความแตกแยกด้านเชื้อชาติ ด้านภาษา
2.3 ด้านผู้บริหารโรงเรียน ที่เห็นเด่นชัด คือ ผู้บริหารต้องมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการพัฒนาโรงเรียน ต้องร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละด้าน ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันไปกับครู และต้องมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับชุมชนเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการจัดการศึกษา บวรคูณสอง
2.4 ด้านผู้ปกครอง ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามากขึ้น ประเมินได้จาก การที่ผู้ปกครองในพื้นที่มักส่งบุตรหลานไปเรียนในเมือง กลับกลายเป็นส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้มากขึ้น อีกทั้ง ผู้ปกครองยังได้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาร่วมกับโรงเรียน เช่น ก่อนเปิดสอนหลักสูตรใด ๆ ของโรงเรียน โรงเรียนจะทำประชาพิจารณ์จากการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ปกครอง ผู้เรียน ชุมชน ตามแนวคิด บวร คือ ศึกษา บริบท กำหนดวิชาการ ผสานการเรียนรู้ เพื่อให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนได้ตรงตามความต้องการของบุคคลเหล่านี้ให้มากที่สุด
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/c1f69827febffb26e5b666e8d3aa65a10_54428845_200605_0011.jpg)
2.5 ด้านภาคีเครือข่าย โรงเรียนทองผาภูมิวิทยามีเครือข่ายร่วมมือพัฒนาคุณภาพการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดลซึ่งเข้ามาช่วยในศูนย์วิทยาศาสตร์และการจัดการเรียนรู้บางส่วน ส่วนภาคีเครือข่ายการจัดการศึกษาในพื้นที่ ได้แก่ วัดท่าขนุนโดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร. พระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตาซึ่งสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนเป็นประจำกว่า 70 ทุนทุกปี สนับสนุนพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรม อบรมคุณธรรมต่าง ๆ ร่วมกับโรงเรียน เทศบาลตำบลทองผาภูมิ หน่วยงานรับผิดชอบเขื่อนชิราลงกรณ สนับสนุนบุคลากรผู้ให้ความรู้ แหล่งเรียนรู้ และโรงพยาบาลทองผาภูมิสนับสนุนแพทย์และเภสัชกรช่วยสอนวิชาเคมีและชีววิทยาให้กับผู้เรียน
3. เรื่องที่โดดเด่นของโรงเรียน
3.1 การได้รับความร่วมมือในการจัดการศึกษาจากชุมชนเป็นอย่างดี หรือ บวรคูณสอง เช่น มีวิศวกรไฟฟ้าประจำเขื่อนวชิราลงกรณมาสอนวิชาฟิสิกส์ มีแพทย์ เภสัชกร จากโรงพยาบาลทองผาภูมิ มาสอนวิชาชีววิทยาและเคมีให้กับผู้เรียน
3.2 ความสำเร็จด้านการลดจำนวนผู้เรียนออกกลางคันจากการจัดการศึกษาแบบทวิศึกษา ซึ่งร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันและวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี ทำให้ผู้เรียนที่มีใจรักในสายวิชาชีพได้เรียนทั้งสายสามัญและสายวิชาชีพ
3.3 โรงเรียนได้รับการพัฒนาให้น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน และปลอดภัย มีบรรยากาศร่มรื่น สะอาด สวยงาม
3.4 โรงเรียนมีหลักสูตรที่หลากหลายตอบสนองบริบทของท้องถิ่น ความต้องการของผู้ปกครองและสอดคล้องกับศักยภาพและความสนใจของผู้เรียน ดังนี้
3.4.1 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จัดหลักสูตร ตามศักยภาพผู้เรียน 2 หลักสูตร คือ ห้องเรียน ศักยภาพวิทยาศาสตร์ (STEAM) และห้องเรียนทั่วไป
3.4.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดหลักสูตรตามศักยภาพและความต้องการของผู้เรียนเป็น 2 ประเภท คือ
1) หลักสูตรสามัญศึกษา ได้แก่
– แผนการเรียนคณิตศาสตร์ – วิทยาศาสตร์
– แผนการเรียนคณิตศาสตร์ – อังกฤษ
– แผนการเรียน 3 ภาษา (ภาษา อังกฤษ-จีน-เมียร์มาร์)
– แผนการเรียนทักษะชีวิต (เน้นศิลปะ/เน้นการงานอาชีพ/เน้นพลศึกษา)
– แผนการเรียนคณิตศาสตร์ – วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัย (Enrichment Program of Science Mathematics Technology and Research : SMTR)
– แผนการเรียนศักยภาพวิทยาศาสตร์ (เตรียมพยาบาล ทหาร ตำรวจ)
2) หลักสูตรทวิศึกษา ได้แก่
– งานช่างอุตสาหกรรม (สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง)
– งานพาณิชยกรรม (สาขาบัญชี)
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/c1f69827febffb26e5b666e8d3aa65a10_54428845_200605_0012-1024x576.jpg)
4. ความสำเร็จที่เกิดขึ้นและต้องการสืบสานต่อเนื่อง
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นและต้องการสืบสานต่อเนื่องของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา คือ หลักสูตรสถานศึกษาซึ่งได้ปรับใช้ปี 2562 ได้ปรับเรื่องแผนการจัดการเรียนการสอน การจัดโปรแกรมการเรียน เป็นแผนการเรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ตามความต้องการของทั้งผู้เรียนและผู้ปกครอง นอกจากนั้นยังจะมีการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และประเมินหลักสูตร เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น และพัฒนาไปสู่หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะต่อไป
5. ปัญหา อุปสรรคที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอน
5.1 โรงเรียนประสบปัญหาด้านงบประมาณ เนื่องจากโรงเรียนไม่เก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา เมื่องบประมาณไม่เพียงพอต่อการพัฒนาการศึกษา จึงต้องขอความร่วมมือกับชุมชน และหน่วยงานต่างๆ
5.2 โรงเรียนอยู่ห่างไกลจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากว่า 200 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางติดต่อประสานงานค่อนข้างลำบาก
5.3 สภาพพื้นที่ของโรงเรียนเป็นภูเขา ทำให้ประสบปัญหาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
5.4 ผู้ปกครองมีฐานะยากจนและบางส่วนเป็นชาวเขาที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ ทำให้มีปัญหาในการสื่อสารกับทางโรงเรียน
6. แนวทางการดำเนินงานในอนาคต
ผอ.ยงยุทธ สงพะโยม มีความเห็นว่า ท่ามกลางสังคมโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง การเรียนรู้ก็ต้องไม่หยุดนิ่งตามไปด้วย สิ่งที่โรงเรียนต้องเร่งดำเนินการคือ การสอนให้ผู้เรียนสามารถหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ และต่อยอดความรู้ด้วยตนเองได้ตลอดชีวิต และที่สำคัญโรงเรียนจะต้องให้ความสำคัญว่า เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาไปแล้ว สามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะที่กำลังจะพัฒนาในปีการศึกษา 2563
โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้วยนวัตกรรม บวรคูณสอง ให้ชุมชนมีส่วนร่วมด้านวิชาการกับโรงเรียน ในขณะเดียวกัน โรงเรียนก็ได้จัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและผู้เรียนอีกด้วย อีกทั้ง โรงเรียนยังจัดการศึกษาด้วยหลักสูตรที่ให้ความสำคัญกับผู้เรียนทุกกลุ่มศักยภาพ ทำให้โรงเรียนประสบความสำเร็จในการลดปัญหาเด็กออกกลางคันรวมถึงการที่ผู้ปกครองในพื้นที่ยังส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยามากขึ้น จากเดิมนิยมส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนในเมือง เมื่อพิจารณาด้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อครู ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีความมุ่งมั่นในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้นเมื่อได้เห็นความสำเร็จต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนยังมีความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ เพื่อเป้าหมายต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างไม่หยุดนิ่งต่อไป
![](https://www.edusandbox.com/wp-content/uploads/2020/06/image-22.png)
ผู้เขียน: อุมาภรณ์ พัฒนะนาวีกุล, ยงยุทธ สงพะโยม
ผู้ให้สัมภาษณ์: ยงยุทธ สงพะโยม ผู้อำนวยการโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา จังหวัดกาญจนบุรี
ผู้สัมภาษณ์: อุมาภรณ์ พัฒนะนาวีกุล
กราฟิกดีไซน์เนอร์: ศศิธร สวัสดี, เก ประเสริฐสังข์
ผู้อัพโหลดคอนเทนต์: ภัชธีญา ปัญญารัมย์
ภาพประกอบ: โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา