จังหวัดสระแก้วได้พัฒนานวัตกรรมการศึกษาที่เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาระบบการศึกษาในระดับจังหวัด โดยการกำหนด “SAKAEO Model” เป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ด้วยกระบวนการที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน จุดเด่นของ SAKAEO Model คือ กระบวนการ 6 ขั้นตอน ในการพัฒนาระบบนิเวศทางการศึกษา SAKAEO Model มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศการศึกษาใน 4 ระดับ ได้แก่ 1) ระบบนิเวศการเรียนรู้ในชั้นเรียน : พัฒนานวัตกรรมการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน 2) ระบบนิเวศการศึกษาระดับโรงเรียน : เสริมสร้างการจัดการภายในโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพ 3) ระบบนิเวศการศึกษาระดับหน่วยงานต้นสังกัด : สนับสนุนการบริหารจัดการเชิงนโยบาย 4) ระบบนิเวศระดับจังหวัด : สร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการศึกษาอย่างเป็นระบบ
แผนการขับเคลื่อน (2567-2570)
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสระแก้ว ได้กำหนด 4 ยุทธศาสตร์สำคัญในแผนการขับเคลื่อน (2567-2570) ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาในการยกระดับศักยภาพของผู้เรียน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาอย่างมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
และยังมีนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาหลักสูตรพื้นที่นวัตกรรม พัฒนาหลักสูตรเฉพาะที่ตอบสนองต่อบริบทท้องถิ่น ระบบการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลายช่วยให้ผู้เรียนได้รับการประเมินอย่างเหมาะสม ICT Learning Center ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) สร้างความร่วมมือระหว่างครูในการพัฒนาการสอน ระบบสารสนเทศสนับสนุนการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาครูในพื้นที่เพิ่มความสอดคล้องระหว่างความต้องการและบุคลากร เป้าหมายสูงสุดของแผนนี้คือการสร้างผู้เรียนให้มีศักยภาพในฐานะ “นวัตกรสระแก้ว” ที่สามารถรักษาและพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนและการจัดการที่ตอบสนองต่อพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ซึ่งมุ่งยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา กระจายอำนาจและเพิ่มความคล่องตัวให้สถานศึกษา พัฒนากลไกการทำงานร่วมระหว่างทุกภาคส่วน
จังหวัดสระแก้วได้พัฒนานวัตกรรมหลักสูตรพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่สะท้อนบริบทท้องถิ่นและความต้องการเฉพาะของชุมชน โดยมีการกำหนดเนื้อหาหลักสูตร 11 กลุ่มสำคัญ ครอบคลุมทั้งด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและศักยภาพของพื้นที่
11 กลุ่มเนื้อหาหลักสูตรที่โดดเด่น
1.พัฒนาทักษะชีวิต: เน้นการสร้างสติปัญญา การเอาตัวรอด และการอยู่ร่วมในสังคมอย่างสงบสุข
2.ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น: ศึกษาเหตุการณ์สำคัญ บุคคลสำคัญ และประวัติศาสตร์ของ 9 อำเภอในจังหวัด
3.เศรษฐกิจและการค้าชายแดน: เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพ การประกอบธุรกิจ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
4.ประเพณีท้องถิ่นและชนชาติพันธุ์: เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมของ 5 ชนชาติพันธุ์ในจังหวัด
5.ธรณีวิทยาและสิ่งแวดล้อม: วิเคราะห์สภาพดิน น้ำ และอากาศในบริบทของ 9 อำเภอ
6.อารยเกษตรและเศรษฐกิจพอเพียง: เชื่อมโยงกับโครงการพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
7.เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI): สร้างนวัตกรรมที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่
8.พัฒนาภาษาไทย: เน้นการอ่านออก เขียนได้
9.ภาษาต่างประเทศ: เสริมภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเขมร เพื่อพัฒนาการสื่อสารในจังหวัดชายแดน
10.คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์: ประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาจังหวัด
11.ศิลปะ ดนตรี กีฬา: ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และสุขภาวะของผู้เรียน
กระบวนการขับเคลื่อนหลักสูตร
หลักสูตรพื้นที่นวัตกรรมของจังหวัดสระแก้วดำเนินการโดยสถานศึกษานำร่อง 73 แห่ง ซึ่งใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ผสมผสานแนวทางการเรียนการสอนที่หลากหลาย ได้แก่
- CIP 6 ขั้นตอนของ OECD: กระบวนการเรียนรู้เชิงวิจัยและพัฒนาศักยภาพ
- จิตศึกษา: เน้นการสร้างสติและสมาธิ
- PBL (Project-Based Learning): การเรียนรู้ผ่านโครงงาน
- STEAM และ STEM: บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะ และคณิตศาสตร์
- อารยเกษตร: การเรียนรู้เกษตรกรรมในเชิงนวัตกรรม
- นวัตกรรมด้านภาษา : การพัฒนานวัตกรรมด้านภาษาที่หลากหลายแก้ปัญหาและส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้
การประเมินผลและระบบสนับสนุน กระบวนการพัฒนาหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
1.ต้นน้ำ: การวางแผนและออกแบบหลักสูตร
2.กลางน้ำ: การดำเนินการทดลองใช้และถอดบทเรียน
3.ปลายน้ำ: การขยายผลและประเมินคุณภาพ
นอกจากนี้ ระบบ Q INFO ยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสารสนเทศในการประเมินผลและติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน โดยใช้แนวทางการวัดผลแบบสมรรถนะ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้และทักษะได้ตรงเป้าหมาย และการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสระแก้วถือเป็นต้นแบบสำคัญในการพัฒนาการศึกษา ด้วยนวัตกรรมหลักสูตรที่เน้นการบูรณาการบริบทท้องถิ่น การส่งเสริมความสามารถเชิงสมรรถนะของผู้เรียน และการบริหารจัดการอย่างมีอิสระและคล่องตัว โดยมีผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจนในหลายด้าน และการทำงานเป็นทีม โดยใช้ระบบ Q INFO เพื่อการประเมินผลที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
งบประมาณจัดสรรเพิ่มเติมที่ได้รับ
ในการจัดสรรงบประมาณที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดสรรเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จ โดยโรงเรียนนำร่องมีการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผู้บริหาร ครู และนักเรียน รวมถึงการขยายผลให้กับโรงเรียนนำร่องเพิ่มเติมอีก 28 แห่ง การกระจายอำนาจผ่าน พ.ร.บ. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ส่งผลให้โรงเรียนมีอิสระในการพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ตามความต้องการของผู้เรียน ผลที่ตามมาคือคุณภาพการเรียนการสอนที่สูงขึ้น และการปรับใช้หลักสูตรใหม่ที่ตอบโจทย์ความหลากหลายของผู้เรียนในพื้นที่ นักเรียนในโรงเรียนนำร่อง 45 แห่งมีพัฒนาการที่โดดเด่น เห็นได้จากผลการเรียนรู้ที่สะท้อนถึงการเรียนรู้แนวใหม่ เช่น การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเขมร ความสุขและความมั่นใจในกระบวนการเรียนรู้ โรงเรียนที่มีผลการเรียนรู้เด่นชัด เช่น โรงเรียนสระแก้ว สังกัด สพม.สก โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม สังกัด สพม.สกโรงเรียนท่าเกษมพิทยา สังกัด สพม.สก โรงเรียนบ้านไร่สามศรี สังกัด สพป.สก 1 โรงเรียนพวงคราม สังกัด ศธจ. โรงเรียนอนุบาลธรรมศิริ สังกัด สพป.สก 2 โรงเรียนชุมชนบ้านโนนจิก สังกัด อปท. โรงเรียนบ้านเขามะกา สังกัด สพป.สก 1 โรงเรียนวังไพรวิทยาคม สังกัด สพม.สก โรงเรียนอรัญประเทศ สังกัด สพม.สก และโรงเรียนวัฒนานคร สังกัด อปท. เป็นต้น
ผู้เขียน: นางรจนา เทียนจันทร์ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ ศธจ. สระแก้ว และน.ส.อทิตยา บุญกวย
กราฟิกดีไซน์เนอร์: น.ส.อทิตยา บุญกวย