จากกระดาน...สู่โลกกว้าง โรงเรียนวัดสลักเพชร สพป.ตราด

29 มกราคม 2025

โรงเรียนวัดสลักเพชร สพป.ตราด กำลังเปลี่ยนโฉมการศึกษาให้สุดปัง! ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อสอบ แต่เป็นการเรียนเพื่อชีวิต ด้วยนวัตกรรม “7C – WSLP Model” และ “จิตศึกษา PBL ภาษาไทยผ่านวรรณกรรม PLC”ที่เน้นการลงมือทำ ฝึกคิด และเชื่อมโยงสู่โลกจริง ให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างมีคุณภาพและพร้อมสู่อนาคต

เรียนรู้แบบใหม่ สนุกกว่าเดิม
โรงเรียนวัดสลักเพชรใช้ 2 แนวทางหลักในการพลิกโฉมการศึกษา:

รูปแบบที่ 1 ใช้นวัตกรรม 7C – WSLP Model สู่ความยั่งยืน พัฒนาโรงเรียนวัดสลักเพชร
กลยุทธ์ที่ 1 สร้างโอกาส (Create Opportunity)
กลยุทธ์ที่ 2 สร้างความคิด (Create Ideals)
กลยุทธ์ที่ 3 สร้างงาน (Create Job)
กลยุทธ์ที่ 4 สร้างการเรียนรู้ (Create Learning)
กลยุทธ์ที่ 5 สร้างธุรกิจ (Create Business)
กลยุทธ์ที่ 6 สร้างเครือข่าย (Create Network)
กลยุทธ์ที่ 7 สร้างคน (Create People)
W – Whole School Approach หมายถึง การพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ
S – Sufficiency Economy หมายถึง การดำเนินกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
L – Lifelong Learning หมายถึง การเรียนรู้ตลอดชีวิต
P – Project หมายถึง โครงการ แผนหรือเค้าโครงตามที่กำหนดไว้ ทำให้เกิดกระบวนการทำงาน
ที่ไปด้วยกิจกรรมหลาย ๆ กิจกรรม

รูปแบบที่ 2 ใช้นวัตกรรมจิตศึกษา PBL ภาษาไทยผ่านวรรณกรรมและ PLC ในการบริหารจัดการด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดสลักเพชร
จิตศึกษา พัฒนาปัญญาภายใน
นวัตกรรมจิตศึกษา และ PBL เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นโดย โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ ในปี 2546 โดยครูใหญ่วิเชียร ไชยบัง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา เป็นโรงเรียนต้นแบบที่พยายามสาธิตให้เห็นว่า “โรงเรียนไม่ใช่กะลาการศึกษา” ไม่ใช่เรื่องของการท่องจำการวัดประเมินผลไม่ใช่แค่ตัวเลขเกรดเฉลี่ยอันสวยหรู หรือตัดสินกันที่สอบได้หรือสอบตก แต่การศึกษาที่แท้คือกระบวนการพัฒนาตน ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงเผชิญปัญหา และค้นหาวิธีแก้ไขด้วยตัวของตัวเอง

โรงเรียนวัดสลักเพชร เริ่มใช้นวัตกรรมจิตศึกษา และ PBL ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 โดย นางสาวนันทิยา บัวตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสลักเพชร เพื่อเปลี่ยนแปลงการสอนทางด้านวิชาการที่เน้นท่องจำและเรียนเพื่อสอบอย่างเดียว เป็นการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้สัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆรอบตัว เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่ช่วยให้เด็กนักเรียน พัฒนาทักษะ ทางด้านความคิด จิตวิญญาณการรับรู้อารมณ์ ทักษะชีวิตได้เพิ่มมาก

จิตศึกษาเป็นนวัตกรรมที่โรงเรียนวัดสลักเพชรทำให้ผู้เรียนไปถึงปัญญาภายใน เสมือนกล้องที่เอาไว้ส่องมองเข้าไปในตนเอง ได้แก่ การมีสติชำนาญเพื่อเท่าทันอารมณ์ การมีสมาธิเพื่อกำกับ

จิตศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้ทั้งครูและผู้เรียนเพื่อให้เกิดปัญญาภายใน เช่น การรู้เท่าทันอารมณ์ ความคิด และความรู้สึกของตัวเอง รู้ตัว การเห็นคุณค่าในตัวเอง คนอื่น และสิ่งต่าง ๆ เคารพในความแตกต่างของกันและกัน การมีวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม อยู่อย่างพอดี และพอใจได้ง่าย การมีสติอยู่เสมอ รู้เท่าทันอารมณ์เพื่อให้รู้ว่าต้องหยุดหรือไปต่อกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ การมีสัมมาสมาธิ เพื่อกำกับความเพียรให้การเรียนรู้หรือการทำภาระงานให้ลุล่วง มีความอดทน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดสลักเพชรมีความงอกงาม นักเรียนสามารถจัดการปัญหา เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักทรัพย์ ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์และท้องก่อนวัยอันควร และสร้างความเข้มแข็งกับจิตใจของตนเองได้

กิจกรรมจิตศึกษา
กิจกรรมจิตศึกษา
20 นาที (เช้า 08.10 น. – 08.30 น.) เป้าหมาย 3 ระดับ
ขั้นเตรียมสภาวะจิต ขั้นกิจกรรม Active Learning ชง เชื่อม ใช้ ขั้นจบ Empower
กิจกรรมจิตศึกษา Body scan 15 นาที (กลางวัน 12.15 น. – 12.30 น.)
– เน้นฝึกฝนสติ รับรู้ความรู้สึกทางกายทีละส่วน
– ให้ร่างกายผ่อนคลาย
กิจกรรมจิตศึกษา จัดกาย – ใจ 15 นาที (เย็น 15.30 น. – 15.45 น.)
กลับมาสู่การรู้ตัว ใคร่ครวญ สิ่งที่ได้ทำได้เรียนรู้มาทั้งวัน

การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL – Problem-Based Learning)
PBL หรือ การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นแนวทางการสอนที่ให้นักเรียนเริ่มต้นเรียนรู้จาก ปัญหา”
ที่เกิดขึ้นจริง และใช้ปัญหานั้นเป็นจุดศูนย์กลางในการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างองค์ความรู้ใหม่จากประสบการณ์ตรง

หลักการของ PBL
1. เริ่มต้นจากปัญหาจริง
– ผู้เรียนต้องเผชิญกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต
– ปัญหาที่ใช้ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเรียนรู้มีความหมาย

2. เรียนรู้แบบบูรณาการ
ผสาน 5 กลุ่มสาระหลัก ได้แก่ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สุขศึกษาและพลศึกษา, การงานอาชีพ และศิลปะ

  • Active Learning – ผู้เรียนมีบทบาทหลักข
    – นักเรียนต้องค้นหาคำตอบด้วยตัวเองผ่านการปฏิบัติจริง
    – ครูเป็นผู้ชี้แนะ ไม่ใช่เป็นผู้ให้คำตอบโดยตรง
  • พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
    – ฝึกการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking)
    – ฝึกการคิดสังเคราะห์ (Synthesis)
    – ฝึกการคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
  • เรียนรู้แบบกระบวนการ (Process-Oriented Learning)
    – เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์ และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

ขั้นตอนการออกแบบการสอน PBL
1.
วิเคราะห์ปัญหา ก่อนออกแบบการสอน ครูต้องเข้าใจ ปัญหา” อย่างลึกซึ้ง โดยใช้แนวคิด ภูเขาน้ำแข็ง” แนวคิดภูเขาน้ำแข็ง คือ การวิเคราะห์ว่า ปัญหาหนึ่งๆ มีเบื้องหลังที่ซับซ้อนอย่างไร เช่น

  • ส่วนที่มองเห็น (ปัญหาภายนอก) → สาเหตุที่ชัดเจน
  • ส่วนที่มองไม่เห็น (ปัญหาภายใน) → ปัจจัยแฝงที่ส่งผลต่อปัญหา

2.ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ กำหนดว่า นักเรียนควรเรียนรู้อะไรจากปัญหานั้น เช่น

  • ทักษะที่ต้องการพัฒนา
  • ความรู้ที่ต้องการให้เข้าใจ

3.ศึกษาภูมิหลังของปัญหา วิเคราะห์ว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นจากอะไร และเกี่ยวข้องกับสาระวิชาใดบ้าง

4.ออกแบบโจทย์ปัญหา ตั้ง คำถามหลัก หรือ สถานการณ์จำลอง ให้ผู้เรียนค้นหาคำตอบ เช่น

  • ทำไมมลพิษทางอากาศจึงเพิ่มขึ้น?”
  • เราจะลดปัญหาขยะในโรงเรียนได้อย่างไร?”

5.กำหนด Timeline แบ่งช่วงเวลาเรียนรู้ เช่น

  • สัปดาห์ที่ 1-2 → วิเคราะห์ปัญหา
  • สัปดาห์ที่ 3-4 → ค้นหาข้อมูล
  • สัปดาห์ที่ 5-6 → สรุปแนวทางแก้ปัญหา

6.ออกแบบกระบวนการเรียนรู้แบบ PBL ใช้ 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

ภาษาไทยผ่านวรรณกรรม
งอกงามอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา พัฒนาทักษะอาชีพสู่ความยั่งยืน”

  1. ทำไมต้องเรียนภาษาไทยผ่านวรรณกรรม?

– เพื่อพัฒนาการคิดขั้นสูง
– ส่งเสริมทักษะด้านภาษาและการวิเคราะห์

Timeline ขั้นตอนการเรียนรู้ภาษาไทยผ่านวรรณกรรม

  1. กระบวนการจัดการเรียนการสอน

รูปแบบที่ 1 การสอนภาษาระดับต้นเพื่อการอ่านออกเขียนได้

  • รับรู้และเข้าใจความหมาย
  • เรียนรู้การใช้สัญลักษณ์แทนความหมาย
  • ฝึกการออกเสียงพยัญชนะและสระ
  • ฝึกสะกดคำและสร้างประโยคง่าย ๆ

รูปแบบที่ 2: การสอนภาษาไทยผ่านวรรณกรรมเพื่อการคิดขั้นสูง

  • คาดเดาเรื่อง – ใช้ภาพปกหรือคำสำคัญช่วยตั้งคำถาม
  • อ่านเพื่อจับประเด็น – ฝึกอ่านออกเสียง, ตอบคำถาม, สร้างแผนภาพลำดับเหตุการณ์
  • ตีความใต้บรรทัด – วิเคราะห์แนวคิด สังคม และวัฒนธรรมของเรื่อง
  • เชื่อมโยงหลักภาษา – ฝึกแต่งประโยคและสร้าง Concept ทางภาษา
  • การสื่อสาร – ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสื่อสร้างสรรค์ เช่น นิทาน การ์ตูน งานเขียน
  1. PLC (Professional Learning Community) – ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ

องค์ประกอบของ PLC ที่เข้มแข็ง

  • ความเป็นชุมชน – สิ่งแวดล้อมที่ดี ปลอดภัย มีเป้าหมายร่วม
  • กิจกรรมการเรียนรู้ – แลกเปลี่ยนบทเรียน คิดนวัตกรรม
  • ทักษะที่สำคัญ – ฟังเชิงลึก, สนทนา, การเป็นผู้นำวงสนทนา
  • กระบวนการ PLC – เตรียมสภาวจิต, แชร์ความสำเร็จ, ระดมความคิด, สนับสนุนกัน

วีถี วง PLC ที่มีคุณภาพ

วันอังคาร

PLC จิตศึกษา

วันพฤหัสบดี

PLC PBL ภาษาไทยผ่านวรรณกรรม

Super PLC

เดือนละ 1-2 ครั้ง

สิ้นสุด Quarter

สรุปการเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดหน่วยการเรียนรู้ ออกแบบ วิพากษ์แผน ปรับแก้ นำเสนอ

 

      4. ขั้นตอนการทำ PLC

1) เตรียมสภาวะจิต – ฝึกสมาธิ, Brain Gym, อ่านบทความเพื่อการใคร่ครวญ
2) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share & Learn – SL) – แชร์ความสำเร็จและบทเรียนจากประสบการณ์จริง
3) อภิปรายแก้ปัญหา (Creative Discussion) – วิเคราะห์และพัฒนาแนวทางการเรียนการสอน
4) Empower – ขอบคุณและให้กำลังใจกัน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

นักเรียน

  • มีทักษะคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาเก่งขึ้น
  • เข้าใจและเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
  • ได้ฝึกฝนทักษะชีวิต เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์และการนำเสนอ

ครู

  • สอนได้สนุกขึ้น เข้าใจเด็กแต่ละคนมากขึ้น
  • ใช้กิจกรรมที่ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมและกระตือรือร้น
  • ประเมินผลนักเรียนได้ตรงกับความสามารถจริง

ผู้บริหารและชุมชน

  • สนับสนุนทรัพยากรและร่วมสร้างสรรค์การศึกษา
  • ช่วยให้เด็กเข้าใจรากเหง้าของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการเชื่อมโยงการศึกษา

จากบทความนี้จะเห็นได้ว่าการศึกษาที่ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน โรงเรียนวัดสลักเพชรกำลังพิสูจน์ว่า การศึกษาที่แท้จริงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหนังสือ แต่คือการเรียนรู้จากชีวิตจริง” ครูทำหน้าที่เป็น โค้ช ที่คอยแนะนำแนวทาง ขณะที่ชุมชนก็มีบทบาทเป็น หุ้นส่วนทางการศึกษา ที่ช่วยเติมเต็มความรู้และประสบการณ์ให้เด็ก ๆ นวัตกรรมนี้ช่วยให้เด็กไทยพร้อมเผชิญโลกยุคใหม่ และเติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพแห่งอนาคต


ผู้เขียน:นางสาวนันทิยา บัวตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสลักเพชร
กราฟิกดีไซน์เนอร์: นางสาวณัฐวรี ใจกล้า

ไม่ท่องจำ ไม่น่าเบื่อ! โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)4IN LOVE Model การจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะด้านสิ่งแวดล้อม